มวลชนเกษตรกร ภาคเหนือ อีสาน ขานรับ “เคนพิศณุพงศ์” เชื่อมั่น ประชาธิปัตย์ กับนโยบาย ผลักดันด้านการเกษตร “ทำได้ไว ทำได้จริง” หมวกอีกใบก็ยังปฏิบัติหน้าที่ในนามของรัฐบาล ต่อ

 24 มี.ค.66 นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าว ถึงกรณี นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ตอบโจทย์กลุ่มเกษตรทั่วประเทศ “สำหรับตนแล้วการได้รับโอกาสได้มาเข้าร่วมพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นหมวกอีกใบ แต่ตนยังคงทำงานในนามของรัฐบาล ในตำแหน่ง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อีกด้วย ซึ่งได้ลงพื้นที่ พบปะพี่น้องเกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ทราบปัญหาของการดำรงชีวิตของพ่อแม่พี่น้องเป็นอย่างดี สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ในภาคเหนือและอีสานในครั้งนี้ตน คาดการณ์ว่าคะแนนต้องดีขึ้นเป็นอย่างมากแน่นอน โดยเฉพาะนโยบายที่ออกมานั้นตอบโจทย์พ่อแม่พี่น้องภาคเหนือ ภาคอีสาน ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านการเกษตร ประกันรายได้ ชาวนารับ 30,000 บาท ต่อยอดเกษตรแปลงใหญ่ 3 ล้านบาท อาสาสมัครเกษตรกรรับค่าตอบแทน 1,000 บาท ซึ่งประกันรายได้ ซึ่งเป็นนโยบายที่เกษตรกรได้รับประโยชน์มาตลอดและจะได้ประโยชน์ต่อถ้าเราได้เป็นรัฐบาล นอกจากนี้ยังมี นโยบายฟรีนมโรงเรียน 365 วัน นโยบาย เรียนฟรีถึงปริญญาตรี นโยบายที่ดินทั้งการออกโฉนด 1 ล้านแปลงใน 4 ปี และออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้ผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ นโยบายอินเทอร์เน็ต1 ล้านจุด ฟรี นโยบายตรวจรักษาสุขภาพฟรี ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000บาท นโยบายปลดล๊อค กบข ซื้อบ้านได้  นโยบายธนาคารหมู่บ้าน-ชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท และนโยบาย sme มีแต้มต่อ 3 แสนล้า ล้วนแล้วตอบความต้องการของพ่อแม่พี่น้อง ชาวเกษตรกรและคนรากหญ้าได้เป็นอย่างดี 

นายพิศณุพงศ์ฯ ยังเปิดเผยต่อ กรณี ทำไมเลือกการย้ายสังกัดพรรคในเวลานี้ “สำหรับเดิมทีตน ได้รับหน้าที่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งการทำงานต้องทำงานเพื่อสนับสนุนการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ในส่วนของรัฐบาลซึ่งนำโดย ท่านนายกรัฐมนตรี ในกรณีการตัดสินใจย้ายสังกัดพรรค เพราะมองว่าตนคือนักการเมือง ก่อนหน้านี้ก็ได้สังกัดพรรคการเมืองมาหลายพรรค ตนไม่เคยเรียกร้องอะไร เพราะตั้งใจเข้ามาทำงานให้กับประชาชนอยู่แล้ว พรรคการเมืองที่ผ่านมา ต้องขอบคุณผมด้วยซ้ำ ไม่ได้มีความขัดแย้งใดกับ คนในพรรค รทสช.เป็นตนด้วยซ้ำที่ทำงานสนับสนุนงานเป็นอย่างดีก่อนหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะภารกิจที่ตั้งมั่นในใจเสมอมา อยากทำงานเพื่อประชาชนคนไทย เพื่อปากท้องของพ่อแม่พี่น้อง ให้เขากินอิ่มนอนหลับ ปัดเป่าความทุกข์ใจ ที่ผ่านมา ผมได้ให้ความช่วยเหลือหาทางออกให้กับมวลชนหลายๆกลุ่ม ก็ได้รับการตอบรับ และสนับสนุนผมเป็นอย่างดี เสมอมา ถึงวันนี้ผมสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ หลายกลุ่ม ตอบรับตนมาแล้วจะสนับสนุนต้นสังกัดใหม่ของตนด้วย ซึ่งหลังจากนี้ตนก็คงจะต้องไปเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องแต่ละกลุ่ม แต่ละองค์กรด้วยตัวเอง แทนที่จะสร้างความลำบากให้ทุกคนมาพบ ที่ทำเนียบรัฐบาล จะเปลี่ยนไปพบพ่อแม่พี่น้องที่พื้นที่เลย โดยหวังว่าจะนำ นโยบายของรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ เรียกคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่และมวลชนกลุ่มต่างๆ ให้ช่วยสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ สืบไป